วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โลกทิพย์ในวันงานบวงสรวง ณ กรุงเบอลิน

หลังจากลาสึกมาได้ 1 วัน วันรุ่งขึ้นจัดงานพิธีบวงสรวงท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 ที่ร้านไทยแห่งหนึ่งในกรุงเบอลิน เยอรมัน เป็นร้านที่คุณแม่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ด้วย คุณแม่กับเจ้าของร้านรักกันมากเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายสิบปีแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอทำพิธีบวงสรวงที่ร้านแห่งนี้ค่ะ


ในวันงานทุกคนต่างช่วยกันอย่างเต็มที่ ทั้งคนในร้านคนนอกร้านต่างร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานนี้ขึ้นมาค่ะ ขอขอบพระคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี่ด้วยค่ะ โดยเฉพาะท่านเจ้าของร้านผู้ใจดีให้ใช้สถานที่ค่ะ


วันงานนอกจากจะมีเครื่องคาวของหวานผลไม้ต่างๆแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยก็บายศรีปากชาม และบายศรีหลักตรงกลางค่ะ บายศรีปากชามมีป้าผู้ใจดีอาสาจัดทำให้ทั้ง 6 พานเลย แต่บายศรีหลักนี้ซิ อาจารย์มอบหมายให้ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบ ( โอ..โน..)


อาจารย์ : บายศรีหลัก น่ะ เราเป็นคนทำนะ
ข้าพเจ้า : เหอะๆ อาจารย์มอบหมายผิดคนแล้วค่ะ เกิดมาไม่เคยทำบายศรีสักครั้ง จะไปทำได้อย่างไรค่ะ
อาจารย์ : เอาน่า ลงมือทำก่อนแล้วจะรู้เอง
ข้าพเจ้า : ให้คนอื่นทำดีกว่า ป้าที่เขาทำบายศรีปากชามนั้นไง ป้าเขาเก่งออก
อาจารย์ : ไม่ได้เจ้าต้องเป็นคนทำ
ข้าพเจ้า : โห..อาจารย์ ออกมาไม่สวยไม่รู้ด้วยนะ
อาจารย์ : เออ สวยไม่สวยไม่รู้ รู้ว่าเจ้าต้องรับผิดชอบหน้าที่นี้ล่ะกัน


หลักจากที่ต่อรองกับอาจารย์แล้วต่อรองอีกให้คนอื่นทำบายศรีหลักเถอะ เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำบายศรีกับเขาเลย ไม่มีหัวทางนี้เลยด้วยซ้ำ ก็ไม่เป็นผลเพราะอาจารย์ยืนยันเสียงแข็งว่าข้าพเจ้าต้องเป็นคนทำ (ทำก็ทำ ฮื่อๆๆ)


เมื่อถึงเวลาลงมือทำ ก็หมุนพานแล้วหมุนพานอีก จะเริ่มตรงไหนอย่างไงก่อนดีและไม่มีแบบอะไรทั้งสิ้นจัดแบบสดๆเลย ขณะที่กำลังคิดๆๆๆ อยู่นั้น อาจารย์ก็บอกว่า
อาจารย์ : ไม่จุดธูป16 ดอกซะ ขอเสด็จท่านย่า และขออัญเชิญนางฟ้ามาช่วยเจ้าจัดบายศรีซะซิ


พออาจารย์บอกดังนั้น ก็รีบไปหาธูปมาจุดและไหว้ขอนางฟ้ามาช่วยในการจัดบายศรีหลักนี้ด้วยเทอญ พอไหว้ครูบาอาจารย์ขอนางฟ้าเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาที่จัดบายศรีต่อ ก็มาหยิบดอกนู้นวางดอกนี้ คิดๆๆแบบอยู่นั้น ก็เกิดขนลุกทั้งตัวเลยค่ะ โดยเฉพาะขนหัวลุกตั้งเลยนานด้วย เหมือนมีสื่ออะไรสักอย่าง ประมาณสัก 2-3 นาทีได้ แล้วไม่รู้ว่าไอเดีย วิธีการจัดบายศรีดอกไม้นั้นมาจากไหน วางพานซ้อน 3 ชั้นเอาข้าวสารมาใส่ หาธูป เทียนมาปักบนสุด หยิบดอกไม้มาตัดๆๆปักๆๆ อย่างกะผู้ชำนาญการจัดบายศรีอย่างนั้นแหละ พออาจารย์เห็นว่าเริ่มได้เรื่องล่ะ ก็เรียกพี่ๆ มาช่วยกันปักดอกไม้ โดยข้าพเจ้าเป็นคนบอกว่า ดอกนั้นตรงนี้ ดอกนี้ตรงนั้น ระหว่างการจัดบายศรีอยู่นั้นเกิดอะไรขึ้นกับเรา ท่านใดหนอมาช่วยอยากรู้จังเลยกำหนดจิตดู เห็นนางฟ้าอยู่ 2 ท่านคอยบอกพี่คนนั้นให้ปักตรงนั้นนะ ตรงนี้นะ โดยการดลใจเรา และมีท่านย่ายื่นอยู่ข้างๆเรา โอ้..แม่เจ้า ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าท่านจะเสด็จลงมาช่วยเราจริงๆหรือนี้ และแล้วบายศรีดอกไม้ก็ออกมาอย่างสวยงาม ขณะที่กำลังปลาบปลื้มกับบายศรีดอกไม้อยู่นั้น เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้น


อาจารย์ : เอ้า..มัวแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั้นแหละ ยกมาวางที่โต๊ะได้แล้ว
ข้าพเจ้า : แหม..อาจารย์ก็มันปลื้มนี่น่า เกิดมาไม่เคยทำกับเขาสักที ทำครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี้ย
อาจารย์ : เหอะๆ ใช่เราทำรึ
ข้าพเจ้า : แง่ว... อาจารย์ก็ ยิ่งปลื้มมากขึ้นไปอีกที่ท่านเมตตาลงมาโปรดช่วยแนะช่วยสอน
อาจารย์รู้ไหมว่าข้าพเจ้าเห็น
อาจารย์ : เออๆ รู้แล้วๆ เอายกมาได้แล้วมัวแต่ลีลาเดี๋ยวไม่ทันเวลา
ข้าพเจ้า : เจ้าค่ะ พี่ช่วยยกหน่อยค่ะ คงหนักพอดูน่ะค่ะ
อาจารย์ : ไม่ได้ๆ เราน่ะยกมาเอง ให้พี่เขาช่วยคอยเดิมตามข้างเรามาล่ะกัน
ข้าพเจ้า : โห อาจารย์มันหนักนะ ขืนยกคนเดียวมีหวังคว่ำแน่ๆ
อาจารย์ : ไม่คว่ำหรอกน่า ยกมาเถอะ
ข้าพเจ้า : เอ้ายกคนเดียวก็คนเดียว ทำไงได้อาจารย์สั่งนี้ เฮ้อ..จะรอดไหมเนี้ยตรู(คิดในใจ)


แล้วก็ยกบายศรีขึ้น ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก ว่าเบากว่าที่คิดอีกแหะ ทั้งๆ ที่ใส่ข้าวสารรองในพานนี้ไปหลายกิโลอยู่นะ ทำไมเบาหวิวอย่างนี้ เลยกำหนดจิตมองดูเลยถึงบางอ้อ
ที่บายศรีเบาเพราะเหล่านางฟ้าท่านมาช่วยยกกันไม่ต่ำกว่า 20 ท่านได้ขอให้ได้จับท่านละนิดละหน่อยก็ยังดี มาจับบายศรีกันทั่วสารทิศของบายศรีเลยค่ะ ซ้ายขวา บนล่าง หน้าหลัง
แบบนี้นี่เอง อาจารย์ถึงบอกให้เรายกคนเดียวจะได้มีพื้นที่ให้เหล่านางฟ้าท่านได้ถือบายศรีกันด้วย


เมื่อข้าพเจ้านำบายศรีไปวางไว้กลางโต๊ะเรียบร้อย จัดข้าวของบนโต๊ะบวงสรวงเสร็จสรรพก็เริ่มพิธีการกัน บอกตรงๆว่าตอนนี้ ตื่นเต้นมากกกก ไม่เคยร่วมพิธีการแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งก่อนหน้านี้อาจารย์บอกให้จับตามองโลกทิพย์ดีๆ ว่าวันนี้มีท่านใดเสด็จลงมาบ้างด้วย เพราะจะไม่ได้มีโอกาสได้เห็นบ่อยๆ ที่ท่านลงมาเมตตาพร้อมๆกันแบบเยอะๆขนาดวันงานนี้


เมื่ออาจารย์เริ่มสวดมนต์ ข้าพเจ้าก็กำหนดจิตขอดูโลกทิพย์นั้น ก็มีนกตัวหนึ่ง ตัวใหญ่มากเหมือนนกเหยี่ยวเลยค่ะ มาเกาะอยู่บนเสาไฟฟ้าตรงข้ามกับโต๊ะที่ทำพิธี และส่งเสียงร้องเสียงดังมาก เสียงออกแหลมๆ สักพักก็มีนกบินมากันเต็มไปหมด โอ้..ไม่ธรรมดาแน่ๆ ก็เลยกำหนดจิตขอดูหน่อยว่านกตัวนี้คือใคร ก็ได้เห็นเป็นท่านพญาครุฑองค์ใหญ่มากๆ และเหล่าท่านเทวดานางฟ้า ก็ลอยลงมากันเต็มไปหมดทั่วบริเวณงานเลยค่ะ

สักพักก็มีแสงสว่างจ้ามากๆ แสบตาเหมือนเรามองแสงพระอาทิตย์เลยเจ็บตามาก ลอยลงมา 1 ดวง 2 ดวง 3 ดวง และก็ลอยลงมาเยอะไปหมดเลยเหมือนฝนดาวตกเลยค่ะ ข้าพเจ้าพยายามมองทะลุผ่านแสงที่จ้านั้น เพื่อขอชมบารมี ที่ท่านเสด็จลงมานั้น ขณะที่กำลังเพ่งมองอยู่นั้น ก็ตกใจนิดหน่อย เพราะได้เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านยังมีชีวิตอยู่และเป็นพระสงฆ์ที่ทั้งคณะเรานับถือท่านเป็นอย่างมากค่ะ ท่านได้เมตตามาร่วมให้พรด้วย และหลังจากนั้นก็เห็นเทพ พรหม เทวดา นางฟ้า ต่างๆ และท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 เป็นภาพที่ประทับมากในวันนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นท่านชัดเจนและใกล้ขนาดนี้ได้เลย


เมื่อเสร็จพิธีกรรมแล้ว อาจารย์ก็ทำการดูดวง เปิดกรรมแนะวิธีแก้ไขกรรม ช่วยคนต่อเลยค่ะ

ข้าพเจ้าได้เข้าไปช่วยอาจาย์ เปิดกรรมด้วย ทีแรกคิดแค่ว่าเข้าไปช่วยถูไข่ ชำระล้างสิ่งไม่ดีออกให้เขา เพราะอย่างสุภาพสตรีจะมีบริเวณหน้าอกที่มันล่อแหลมนิดนึง แต่จำเป็นต้องถู ข้าพเจ้าก็อาสารับหน้าที่นี้ค่ะ แต่พอถูไปถูมา ก็เกิดภาพต่างๆ เหมือนตอนเปิดตาครั้งแรกเลย มีจอสี่เหลี่ยมมาก่อนแล้วก็มีภาพเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ว่าคนนี้เคยทำอะไรมา ตอนนี้กำลังประสบปัญหาอะไรอยู่ คนรอบข้างคิดกับเขาเช่นไร ออกมาเป็นฉากๆ ตามคำถามที่เขาถามมาอยากรู้เรื่องไหน คำตอบเรื่องนั้นก็มาปรากฏที่จอ ว่าอย่างนั้น ตอนแรกยังไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์อะไร คือใคร ต้องการสื่ออะไรต้องมาปะติดปะต่อเอาอีกที พอเห็นหลายๆคนเข้า ก็พอจะต่อเรื่องได้ดีขึ้นๆ ตามลำดับ

มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายขณะที่ทำการเปิดกรรมให้แต่ละราย บางรายเดินเข้ามาคนเดียวแต่ที่เราเห็นไม่ใช่คนเดียว บางรายมีใครนั่งขี่คอมาด้วย กว่าจะเจรจาต่อรองขออโหสิกรรมกันได้แต่ละรายก็หนักพอดูค่ะ  บางรายก็สามารถเปิดตาเปิดญานทัศนะได้เลยก็มี

เริ่มเปิดกรรมตั้งแต่เที่ยงวัน ถึง 4 ทุ่ม ไม่ได้เบรคเลย ไม่ได้แม้แต่ทานข้าวเช้ากันเลยล่ะ ข้าวกลางวันไม่ต้องพูดถึง ได้แต่ดื่มน้ำ แก้กระหายเท่านั้นเอง ได้ทานข้าวกันตอนเกือบจะ 5 ทุ่ม
แต่ก็แปลกขณะที่ทำพิธีไม่รู้สึกหิวหรือเหนื่อยเลย แต่พอเสร็จหมดแล้วเท่านั้นแหละแทบจะเป็นลม ทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์เลย......






บวงสรวงท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 และส่งกระทงราหูค่ะ

ผลงานบายศรีดอกไม้ตรงกลางที่ข้าพเจ้าสุดแสนภูมิใจ(เสนอ)ค่ะ

3 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุโมทนา ทุกๆบุญกุศล นะค่ะ สาธุ สวยนะค่ะ บายศีร น่ะ

    ตอบลบ
  2. เค้าเรียกชื่อเต็มๆ ว่า บายศีรอะไรค่ะ และถวายให้แก่ท่านใดบ้างค่ะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณค่ะ เรียกบายศรีดอกไม้ค่ะ ถวายแด่ ท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 ค่ะ จะมีดอกไม้ 4 อย่าง(4สี) แต่ละสีเป็นการบูชาแต่ละองค์ท่านค่ะ

    ตอบลบ

ทุกบทความในเวป http://www.banimboon.blogspot.com/ เป็นลิขสิทธิ์
ของบ้านอิ่มบุญ ห้ามดัดแปลง คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่
ก่อนได้รับอนุญาต

บ้านอิ่มบุญ

บ้านอิ่มบุญ
กลับหน้าหลัก